โดยส่วนตัว เป็นคนที่ชื่นชอบผลงาน ด้านภาพวาดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สมัยเด็ก เคยจริงจังขนาดหัดวาดรูปการ์ตูน ที่ชื่นชอบ (Slamdunk) แต่ก็ได้แค่คัดวาดตามรูปต้นฉบับ จึงไม่ได้จัดว่ามีฝีมือ หรือมีการพัฒนาด้านการวาดอย่างจริงจัง ปัจจุบัน ความชื่นชอบด้านภาพเขียนยังคงมีอยู่ แต่ด้วยความไม่เฉพาะเจาะจง ว่าชอบผลงานใครเป็นพิเศษ จึงได้ลองชมผลงานภาพ ของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งจัดเป็นอันดับ 1 ในยุคนี้ และด้วยความสอดคล้องอย่างแปลกประหลาด ภาพของ อ.เฉลิมชัย โดยส่วนมาก จะเกี่ยวข้องกับ พระพุทธศาสนา ซึ่งผมศรัทธามาแต่เดิมด้วย จึงทำให้เกิดความชื่นชอบเพิ่มมากขึ้น แน่นอนว่าภาพวาดจริง ของ อ.เฉลิมชัย แต่ละภาพ คนธรรมดาซื้อหา หรือจับต้องไม่ได้แน่ จึงเสาะหา ว่าพอจะมีแหล่งที่จำหน่ายภาพ อย่างชอบธรรมไหม ที่พูดแบบนี้เพราะผมเข้าใจดีว่าภาพทุกภาพของอาจารย์ มีลิขสิทธิ์ การจะสำเนาภาพ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด นอกจากจะไม่เคารพเจ้าของผลงานแล้ว ยังทำให้ตนเองรู้สึกผิดอีกด้วย จนกระทั่งได้เจอเพจหนึ่งโดยบังเอิญ จึงตามดูเรื่องราวของเพจ และคนที่ซื้อภาพจากแหล่งนี้ อยู่พอสมควร จนได้พบว่า เป็นภาพที่ซื้อจากวัดร่องขุ่นโดยตรง แถมมีลายเซ็น ของ อ.เฉลิมชัย ด้วยทุกภาพ !! หลังส่องเครดิตการขายอยู่พักใหญ่ ก็ตัดสินใจเลือก และสั่งภาพ แบบชำระเงินก่อนเลย โดยขณะที่เขียนบทความนี้ ราคาตกที่ภาพละ 1,000 บาท (ร่วมค่าดำเนินการซื้อและส่งภาพ) ด้วยเหตุนี้จึงตัดปัญหาความชอบธรรมในการครอบครองภาพ เพราะซื้อมาจากแหล่งที่พิมพ์ภาพ (จากต้นฉบับ) ขายโดยตรง ประเด็นวัดใจ จึงอยู่ที่เพจที่ขายภาพ และคุณภาพของภาพ ที่จะได้รับ ซึ่งกระบวนการนี้ หลังจากที่ภาพถูกส่งจาก เชียงราย มา สกลนคร ด้วยไปรษณีย์ไทย ด่วน ในระยะเวลา 2 วัน พัสดุที่ได้รับ ถูกม้วนในกล่องพลาสติกทรงกระบอกขนาดใหญ่ ห่อด้วยกระดาษเทารอบนอกอย่างดี พัสดุถึงมืออย่างสมบูรณ์ เมื่อแกะกล่องดูภาพ พบว่ามีคุณภาพของกระดาษพิมพ์ที่ดีมาก (มีความหนา) และสีภาพที่พิมพ์มีความสด ชัดเจน มีชื่อภาพอยู่บริเวณขอบขาวใต้ภาพ และมีพื้นที่ขอบขาวล้อมรอบภาพอีกทีนึง ซึ่งเหตุนี้ทำให้ภาพมีความเหมาะสมมาก เมื่อต้องอัดเข้ากรอบภาพ เครดิตนี้ขอยกให้กับเพจ FB : ภาพพิมพ์ ของที่ระลึกจากวัดร่องขุ่น อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ โดยที่ผมไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด ครับ
ตัวอย่างภาพที่ผมสั่ง หลังเข้ากรอบรูปแล้ว
หลังจากได้รับภาพแล้ว ความคิดแรกๆ คืออยากอัดเคลือบพลาสติกภาพ เพื่อให้มีความคงทน แข็งแรง สามารถติดตามผนัง หรือกระจกห้องทำงานได้ เพราะหากติดเทปกาวสองหน้าที่หลังภาพโดยตรง จะทำให้กระดาษฉีก หรือหลุดลอกหากต้องนำออกจากที่เดิม (ภาพจะเสีย) จึงปรึกษาร้านป้ายละแวกใกล้เคียงก่อน และได้รับคำแนะนำให้ไปที่ FB : บ้านใต้กรอบรูป สกลนคร หลังเสาะหาเบอร์ร้าน และโทรปรึกษา (เพราะยังคิดว่าอยากเคลือบพลาสติกง่ายๆ) ร้านก็แนะนำให้เอาภาพมาที่ร้าน เผื่อจะได้เลือกกรอบแบบที่ชอบด้วย ปรากฏว่าไม่สามารถทำง่ายๆ แบบนั้นได้ ถึงจะมีวิธีติดภาพด้วยกาว บนบอร์ดแข็ง ก็เสี่ยงที่จะทำให้กระดาษภาพเสียไปด้วย จึงไปตกลงที่การเข้ากรอบ ซึ่งคอนเซฟต์เดิม ก็คืออยากให้มันเบา สามารถวางหรือเคลื่อนย้ายได้ จึงได้เลือกกรอบน้ำหนักเบา (พลาสติก) ตอนที่เห็นกรอบที่ชอบ มันดันเป็นพลาสติกขาว แต่ก็ด้วยความบังเอิญนี้ ทำให้ได้กรอบที่เหมาะกับภาพอย่างน่าประหลาด ประการที่ 2 คือกรอบภาพจะใช้กระจกครอบทับภาพ หากใช้กระจกปกติ จะมีความสะท้อนแสง ซึ่งไม่เหมาะนักกับการที่ต้องโชว์ภาพที่อยู่ภายใต้กระจก จึงเลือกใช้กระจกตัดแสง เป็นตัวครอบภาพ ตอนแรกก็ลังเล แต่หลังจากทำเสร็จ ปรากฏว่าถูกใจมาก สนนราคาสำหรับเข้ากรอบพลาสติก+กระจกตัดแสง จึงแพงตามไปด้วย อยู่ที่กรอบภาพละ 1,000 บาท ที่เขียนถึงร้านอาจเหมือนโฆษณา แต่ด้วยการบริการอย่างเต็มที่จากร้าน ทำให้รู้สึกประทับใจ และผลงานที่ได้ ผมถือว่ามีคุณภาพ สวยงาม รวดเร็ว และเหมาะสมกับราคาเลยทีเดียว
ตัวอย่างภาพ 1
ตัวอย่างภาพ 2
แม้ภาพ+กรอบจะมีขนาดใหญ่มาก (ประมาณ 30x40 นิ้ว) แต่ร้านก็ยังพยายามใส่กล่องให้อย่างสวยงาม ข้อนี้ผมให้คะแนนความใส่ใจเต็มๆ ครับ :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น